1.คุณคาดหวัง และอยากให้น้ำหอมที่ฉีดพรม มีกลิ่นเดิมในทุกๆ วัน

เมื่อคุณฉีดพรมน้ำหอมที่คุณต้องการแล้ว ในน้ำหอมขวดหนึ่งๆนั้น จะมีการเปลี่ยนระดับของกลิ่นต่างๆ กันเมื่อเวลาผ่านไป เราเรียกกลิ่นในระดับต่างๆ นั้นว่าโน๊ต ของน้ำหอม โดยประกอบด้วย

• Head Notes / Top Notes เป็นกลิ่นของหัวน้ำหอมที่ระเหยส่งกลิ่นอออกมาเป็นตัวแรกสุดมักทำจากสารประกอบโมเลกุลเล็ก ที่ระเหยได้ง่ายให้ลักษณะกลิ่นสดชื่นโดดเด่น โดยกลิ่นช่วงนี้จะอยู่ได้ประมาณช่วง 10 – 20 นาทีแรกหลังจากใส่น้ำหอ
• Heart Notes / Middle Notes เป็นกลิ่นของหัวน้ำหอมตัวหลักในน้ำหอมชนิดนั้นๆ มักมีลักษณะกลิ่นที่นุ่มนวลและกลมกลืน ไปกับกลิ่น base notes โดยกลิ่นของ heart notes จะอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 3 – 6 ชม หลังจากใส่น้ำหอม
• Base Notes / Back Notes เป็นกลิ่นของน้ำหอมในช่วงที่น้ำหอมส่วนมากแห้งหมดไปแล้ว เป็นกลิ่นส่วนสุดท้าย ของน้ำหอม สามารถอยู่ได้นานถึง 24 ชม. และจะมีกลิ่นแตกต่างขึ้นอยู่กับ กลิ่นตัวตามธรรมชาติของผู้ใช้, กิจกรรมที่ทำ, สภาพอากาศเช่นความร้อน หรือความชื้น เป็นต้น

หากคุณอยากรู้ว่าในระหว่างวันนั้น กลิ่นน้ำหอมของคุณมีกลิ่นที่เปลี่ยนไปหรือไม่ อาจใช้กระดาษซับมัน ทดสอบกลิ่นบนร่างกายได้

แค่ได้กลิ่นก็โดนใจแล้วใช่ไหมล่ะ? แต่อย่าเพิ่งรีบร้อนนะสาวๆ หากต้องการสัมผัสกลิ่นที่แท้จริง เมื่อคุณทดลองฉีดน้ำหอมแล้ว โปรดรอประมาณ 30 วินาที เพื่อให้ปริมาณแอลกดฮอล์ที่ผสมิยู่ได้ระเหยออกไปเสียก่อน

3.ฉีกกฎเดิมๆ ลองเปลี่ยนแนวดูบ้างสิ

คุณคะ? เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกว่า คุณไม่ถูกใจในบางสิ่ง นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณจะไม่ชอบทั้งหมดทั้งมวลของสิ่งที่อาจซ่อนเร้นไว้อยู่มากมาย น้ำหอมก็เช่นกัน คุณอาจจะไม่ถูกใจเพียงไม่กี่กลิ่น แต่เชื่อเถอะ ยังมีความหอมอีกมากมาย รอให้คุณมาสัมผัสมากกว่า 200 ชนิด จากการปรุงกลิ่นหอมที่แสนพิถีพิถัน ละเอียดในทุกขั้นตอน ลองสิคะ? แล้วคุณจะค้นพบกลิ่นหอมที่คุณจะหลงใหลไปอีกนานแสนนาน

4. ไม่ควร! ทดสอบน้ำหอมมากกว่า 3 กลิ่น ในเวลาเดียวกัน
หากคุณต้องการเลือกซื้อน้ำหอมให้ได้อย่างใจปรารถนา เราขอแนะนำว่า คุณไม่ควรทดสอบ ฉีด พรม ใดๆ ด้วยวิธีฉีดน้ำหอมลงบนร่างกายเกิน 3 กลิ่น ในช่วงเวลาเดียวกันอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากคุณจะไม่ได้กลิ่นของน้ำหอมนั้นๆ อย่างแท้จริงแล้ว กลิ่นทุกกลิ่นที่คุณฉีดไป ก็จะคละคลุ้งปนกัน จนไม่สามารถแยกความหอมของกลิ่นนั้นๆ ได้เลย แล้วคุณก็จะไม่ทราบกลิ่นที่แท้จริงของน้ำหอมแต่ละกลิ่นด้วย แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ วิธีเบรกกลิ่น หรือ เฟรชจมูกของคุณ คือ ดมกลิ่นเม็ดกาแพ หรือที่ง่ายกว่านั้น คือเดินออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ในบริเวณอื่น ที่ไม่มีกลิ่นน้ำหอม แล้วค่อยกลับมาดมใหม่

5. ลองอะไรใหม่ๆ ให้ชีวิตกันเถอะ

เปิดใจสิคะ รออะไร? คุณสวย คุณมั่นใจ อย่าช้าคะ เลือกใช้น้ำหอมดีดี ที่บ่งบอกสไตล์ บ่งบอกความเป็นตัวคุณ รสนิยมที่แสนจะเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น ไม่เหมือนใคร ทำตัวให้เฉิดฉาย ไฉไล สดใส มากกว่าปีที่ผ่านๆ มา เพราะก้าวต่อๆ ไปของคุณ จะปัง ปัง ปัง ค่ะ

6. วิธีเก็บรักษาน้ำหอมให้นานที่สุด

•  อย่าเก็บไว้ใกล้ความร้อนหรือความเย็นจัด คุณคงรู้ดีอยู่แล้วว่าความร้อนทำให้น้ำหอม มีกลิ่นเปลี่ยนไปได้ แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าการเก็บน้ำหอมไว้ในตู้เย็น ที่มีความเย็นจัดบางครั้งก็ทำให้น้ำหอมมีกลิ่นเปลี่ยนไปได้เหมือนกัน อุณหภูมิที่เหมาะกับการเก็บน้ำหอมคือประมาณ 10-15 องศาเซลเซีย
• อย่าเก็บไว้ในห้องน้ำ การวางน้ำหอมไว้แถวๆ อ่างล้างหน้าก็ดูเข้าทีดี แต่จริงๆ แล้วไม่ดีหรอก เพราะในห้องน้ำนั้นทั้งร้อนและชื้นซึ่งอาจทำให้โมเลกุลน้ำหอมเกิดการแตกตัว หรือมีเชื้อแบคทีเรียเข้ามาได้
• เก็บไว้ในที่มืดๆ การปล่อย น้ำหอม ให้โดนแสงจะทำให้โมเลกุลน้ำหอมลดประสิทธิภาพลง ฉะนั้นจึงเป็นการดีที่ควรเก็บน้ำหอมไว้ในตู้หรือลิ้นชักที่ไม่มีแสงลอดเข้าไปได้ ถ้าจำเป็นต้องนำออกมาวางในที่ที่มีแสงส่องถึงก็ควรเทไว้ในขวดสีชาหรือขวดที่มีความทึบแสง
• อย่าเปิดฝาทิ้งไว้ น้ำหอมส่วนใหญ่จะมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมซึ่งจะระเหยได้ง่าย ถ้าโดนอากาศ ฉะนั้นการเผลอเปิดฝาทิ้งไว้ก็เท่ากับว่าน้ำหอมจะแห้งเร็วขึ้น

8. รู้นะ กำลังถูข้อมือ เพื่อให้ได้กลิ่นหอมที่เร็วขึ้น ใช่หรือไม่?

อย่าถูข้อมือเข้าด้วยกันหลังจากฉีดน้ำหอมลงไป ใครที่ชอบถูข้อมือเข้าด้วยกันหลังจากฉีดน้ำหอม ให้หยุดเดี๋ยวนี้ เพราะการถูข้อมือเข้าด้วยกันอาจทำให้ประสิทธิภาพของความเข้มข้น ที่จะได้น้ำมันหอมลดน้อยลง!

10. น้ำหอมชนิดไหนกลิ่นหอมนานสุดๆ เลือกอย่างไรดีล่ะ

โดยทั่วไปน้ำหอมแต่ละชนิดก็จะมีระยะเวลาของกลิ่นที่แตกต่างกันออกไป ตามแต่ประเภท หากคุณนั้นต้องการน้ำหอมที่ติดทนนานตลอดทั้งวัน มาดูกันค่ะ ว่าควรเลือกซื้อแบบไหน ถึงจะเหมาะสมที่สุด

• Eau de toilettes มีความเข้มข้น 85 ดีกรี แต่มีปริมาณน้ำหอมบริสุทธิ์น้อยกว่า eau de perfume ทำให้มีกลิ่นอ่อนกว่า เบาบางกว่า นั่นคือ 3-10% ซึ่ง 50% จะระเหยไปภายใน 15 นาที จากนั้นอีก 45 นาทีก็จะระเหยไปอีก 30% และจะเหลือตราตรึงซึ้งอารมณ์ไปตลอดวัน 20%
• Eau de parfum มีความเข้ม 85 ดีกรี หมายถึงมีปริมาณแอลกอฮอล์ 80-85% ฉะนั้นก็จะมีน้ำหอมบริสุทธิ์อยู่ประมาณ 7-14% ซึ่งมีปริมาณ 40% จะระเหยไปภายใน 15 นาที พอผ่านไปอีก 45 นาที ก็จะระเหยไปอีก 30% เหลือให้อวลไอติดผิวกายไปตลอดวัน 30%