ข่าวสาร

คำศัพท์เฉพาะของศาสตร์น้ำหอม

เรียนรู้คำศัพท์เฉพาะของศาสตร์น้ำหอม ที่ช่วยให้คุณยกระดับความรู้ไปอีกขั้น

Absolutes
นี่คือน้ำมันบริสุทธิ์ที่สกัดจากดอกไม้หรือพืชพรรณทางธรรมชาติ ซึ่งไม่ได้ผ่านการปรุงแต่งแต่อย่างใด ความเข้มข้นสูงถึงร้อยเปอร์เซ็นต์จึงทำให้มีราคาสูงมาก
 
Accords
แอคคอร์ดส์คือการผสมผสานกันของกลิ่นหอมต่างๆ จนออกมาเป็นกลิ่นใหม่ที่มีส่วนผสมตั้งแต่สองกลิ่นขึ้นไป
 
Basic Note
เรียกได้อีกชื่อว่า Base Note หรือ Basic Note เป็นกลิ่นน้ำหอมสุดท้ายที่ออกมาหลังจากกลิ่นก่อนหน้าแห้งระเหยไปแล้ว  เบสิกโน้ตจะเป็นโมเลกุลใหญ่ทำให้ติดทนนานที่สุด แต่กลิ่นเจือจางมาก ความติดทนอาจอยู่นานถึง 2-4 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นกลิ่นมัสก์ โอ๊กมอส หรือวานิลลา เป็นต้น
 
Bridge 
คือกลิ่นสุดท้ายของเบสิกโน้ต ซึ่งเป็นกลิ่นหัวน้ำหอมที่เจือจางมารวมตัวกันกับกลิ่นตัวของผู้ฉีด กลิ่นที่ออกมาจึงเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของผู้ฉีดแต่ละคน
 
Chypre
ชีเพรอคือกลุ่มน้ำหอมที่มีต้นกำเนิดจากประเทศไซปรัส ซึ่งมักจะเกิดจากการผสมกลิ่นท็อปโน้ตที่สดชื่นเข้ากับกลิ่นเบสิกโน้ตของโอ๊ก มอส และแพทชูลี
 
Citrus
ซิตรัสคือกลิ่นหอมสดชื่นของกลุ่มเบอร์กามอต มะนาว ส้ม ที่มักจะได้กลิ่นในท็อปโน้ต และเป็นตัวเด่นที่สำคัญในน้ำหอมผู้ชายหลากหลายแบรนด์
 
 Eau de Cologne
โอ เดอ โคโลญจน์ คือการที่น้ำหอมทั้งขวดมีส่วนผสมของหัวน้ำหอม 3-5 เปอร์เซ็นต์ ที่ผสมเข้ากับแอลกอฮอล์และน้ำ

Eau de Parfum
นี่ถือว่าเป็นน้ำหอมชนิดที่มีราคาสูงสุด เพราะมีหัวน้ำหอม 15-18 เปอร์เซ็นต์ ที่ผสมเข้ากับแอลกอฮอล์และน้ำ

Eau de Toilette
จัดว่าเป็นน้ำหอมระดับกลางเพราะมีหัวน้ำหอม 4-8 เปอร์เซ็นต์ ที่ผสมเข้ากับแอลกอฮอล์และน้ำ

Fougère
ฟูแจร์ หรือเฟิร์น คือคำจำกัดความของกลุ่มกลิ่นหอมประเภทสมุนไพร อย่างเช่นลาเวนเดอร์หรือมอส ให้ความรู้สึกสุขุมนุ่มลึก แต่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

Leather Note
กลิ่นหนังเป็นกลิ่นคลาสสิกที่มักใช้ในส่วนผสมของน้ำหอมผู้ชาย เพื่อสร้างความเข้มให้ตัวน้ำหอม

Light
ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นแนวผลไม้ กลิ่นสดชื่น ไปจนถึงซิตรัส มันถูกจำกัดความด้วยคำว่า ‘ไลท์’ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะพบมากในท็อปโน้ต
 
Masculine
มาสคูลีน คือคำจำกัดความของกลิ่นที่มีส่วนประกอบอย่างหนัง, ใบยาสูบ, สมุนไพร, เครื่องเทศ, มอส และไม้ จากส่วนผสมดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่ากลิ่นแนวดอกไม้นั้นจะพบได้ยากในน้ำหอมผู้ชาย 

Middle Note
หรือ Heart Note เป็นกลิ่นหลักของน้ำหอมกลิ่นนั้น จะมีกลิ่นที่กลมกลืนไปกับ Base note และติดทนหลังจากฉีดไปแล้ว 3-6 ชั่วโมง

Oriental Notes
นี่คือกลิ่นหอมที่จะพาคุณมุ่งหน้าสู่ตะวันออก ซึ่งให้สัมผัสกลิ่นที่หอมหวาน เข้ม และหนักจากส่วนผสมของเครื่องเทศเป็นหลัก ที่สำคัญคือกลิ่นติดทนนานอีกด้วย

Perfume
นี่คือคำจำแนกน้ำหอมที่มีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมตั้งแต่ 15-30 เปอร์เซ็นต์ ทำให้น้ำหอมประเภทนี้มีกลิ่นติดทนนานและมีราคาสูงกว่าน้ำหอมชนิดอื่น

Spice Notes
โน้ตเด่นที่ช่วยให้น้ำหอมของคุณซาบซ่านไม่หวานจนเลี่ยนกับกลิ่นเครื่องเทศที่ผสมอยู่ในกลิ่นของขั้นมิดเดิลโน้ต อย่างผักชี พริกไทย และอบเชย

Sweet
วานิลลาคือกลิ่นหลักในกลุ่มนี้ ด้วยความพิเศษของกลิ่นที่หอมหวานชวนหลง ซึ่งเราจะได้กลิ่นนี้ในขั้นเบสิกโน้ตของน้ำหอมผู้ชายหลายตัว

Tobacco Notes
กลุ่มนี้จะเป็นน้ำหอมกลิ่นเข้ม ซึ่งสกัดจากใบยาสูบ ไม้ และเครื่องเทศ ส่วนมากมักจะนำไปผสมกับกลิ่นลูกพลัม น้ำผึ้ง และวานิลลา

Top Note 
Top Note หรือ Head Note เป็นกลิ่นของหัวน้ำหอมที่ระเหยออกมาตัวแรกสุด มีกลิ่นโดดเด่นโดยจะมีกลิ่นหลังจากฉีดแล้ว 10-20 นาที แต่เนื่องจากเป็นโมเลกุลขนาดเล็กทำให้กลิ่นระเหยง่าย

Wood Notes
กลุ่มนี้จะประกอบด้วยสนซีดาร์ แพทชูลี หญ้าแฝก เป็นต้น ให้กลิ่นเข้มแบบธรรมชาติ ไม่หนักจนเกินไป

 

ที่มา: VOGUE BEAUTY

Leave a Reply

Your email address will not be published.

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.