น้ำหอมแนะนำสำหรับฤดูฝน
หลายคนสงสัย ทำไมน้ำหอมขวดเดียวกันที่เคยชอบกลับให้กลิ่นที่แตกต่างไปในการใช้แต่ละครั้ง บางช่วงก็หอมถูกใจกำลังเหมาะ แต่บางเวลากลับแรงเกินไปจนกลายเป็นฉุน และหลายครั้งที่รู้สึกว่ากลิ่นเปลี่ยนไประหว่างวันเสียด้วยซ้ำ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เพราะปริมาณที่ฉีดมากน้อย แต่สำคัญที่สุดคือ “อุณหภูมิ” ในอากาศและร่างกายของเราที่ทำปฏิกิริยาให้กลิ่นน้ำหอมเปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา
ดังนั้นการเลือกน้ำหอมให้ตรงกับฤดูกาลจึงไม่ใช่เป็นแค่เทรนด์หรือการสร้างบรรยากาศ แต่เทคนิคนี้จะช่วยดึงกลิ่นหอมที่ดีที่สุดจากน้ำหอมขวดนั้นๆ ออกมาได้ประสิทธิภาพสูงสุด สาวๆ ที่คิดว่ามีน้ำหอมขวดเดียวก็ใช้ไปได้ตลอดปี คงต้องเปลี่ยนใจมาเติมสีสันใหม่ๆ ให้ทุกช่วงเวลา ด้วยน้ำหอมตามฤดูกาล เพื่อชีวิตที่หอมหวานทุกซีซั่น
ฤดูฝน
แม้จะบ่นว่าเบื่อเหลือเกินกับบรรยากาศเฉอะแฉะ เดินทางไปไหนมาไหนลำบาก แต่ฤดูฝนก็มีเสน่ห์และความโรแมนติกที่ไม่มีฤดูกาลไหนเหมือนเช่นกัน บรรยากาศสลัวๆ กับกลิ่นความเย็นของฝน กลิ่นของต้นไม้ใบไม้และไอดินที่โชยขึ้นหลังฝนตก สร้างบรรยากาศที่เหมาะกับการพักผ่อน
กลิ่นหอมในฤดูฝนที่จริงขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวว่ารู้สึกอย่างไรกับฝนด้วย บรรยากาศเย็นๆ ชุ่มฉ่ำกับความรู้สึกของสีเขียวอย่างกลิ่นหญ้า ใบมินต์ ชาเขียว หรืออยากได้อารมณ์อบอุ่นเหมือนหลบอยู่ในบ้านตอนฝนตก ก็ช่วยให้ฤดูฝนโรแมนติกขึ้นเยอะ
แม้อากาศจะร้อน แต่เวลาฝนตกในบ้านเราก็จะกลายเป็นร้อนชื้น ซึ่งบรรยากาศแบบนี้ต้องการกลิ่นหอมชนิดที่มีพลังกว่าเดิม คล้ายกับช่วงฤดูหนาว วิธีเลือกง่ายๆ คือเปลี่ยนจากการใช้น้ำหอมแบบ Eau de Toilette (EDT) มาเป็นแบบ Eau de Parfum (EDP) ซึ่งมีความเข้มข้น กลิ่นติดทน และกระจายตัวในอากาศชื้นได้ดีกว่า จึงจะเหมาะกับการใช้ในหน้าฝน
ปัญหากลิ่นอับในหน้าฝนเป็นเรื่องใหญ่ แก้ยาก เนื่องจากบ้านเรามีฤดูฝนที่ยาวนาน สาวๆ อยากตัวหอมไม่ใช่แค่ใส่น้ำหอมอย่างเดียว แต่ต้องเอาใจใส่เรื่องการเช็ดผมให้แห้งหลังโดนฝน การตากผ้า และเก็บให้ดี ไม่ให้มีกลิ่นอับ ส่วนถ้าจะใช้น้ำหอมเข้าช่วยเรื่องกลิ่นอับในฤดูฝน แนะนำกลิ่นหอมเย็นอย่างมินต์ ที่จะช่วยสู้กับปัญหากลิ่นอับของเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี
น้ำหอมแนะนำสำหรับฤดูฝน : JOY by Dior, AERIN Amber Musk Eau de Parfum, Elizabeth Arden White Tea
ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 942